วิธีลดความอ้วน
N.Patty

N.Patty

วิธีลดความอ้วนเห็นผลใน 1 เดือนทำเองได้ที่บ้าน

การลดความอ้วนเป็นเป้าหมายของใครหลายคนที่ต้องการมีหุ่นดีเพิ่มความมั่นใจกับตัวเอง การลดความอ้วนใน 1 เดือนสามารถทำเองได้ที่บ้านไม่จำเป็นต้องเข้าฟิตเนสเพียงแค่มีวินัยและลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ โดยปัจจัยหลักของการลดความอ้วนคือลดจำนวนแคลอรีที่กินเข้าไปแต่ละวัน

**คำแนะนำในการลดน้ำหนัก 0.5 – 1 kg. ต่อสัปดาห์ คือการลดปริมาณอาหารลง 500-750 กิโลแคลอรีต่อวัน**

5 วิธีลดความอ้วนง่ายๆ

1. ควบคุมอาหาร

ลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อประมาณ 200-250 กิโลแคลอรี เช่น หลีกเลี่ยงขนม ของหวาน หลังอาหารทุกมื้อ การควบคุมปริมาณอาหารที่กินทำให้ต่อวันได้รับแคลอรีลดลงและทำให้น้ำหนักตัวลดลงเพราะว่าร่างกายจะนำไขมันสะสมตามร่างกายมาเผาผลาญออกจากร่างกาย

2. เปลี่ยนวิธีการปรุงอาหาร

เปลี่ยนวิธีจากทอด มาเป็นตุ๋น นึ่ง ต้ม ย่าง ซึ่งวิธีการปรุงอาหารพวกนี้จะช่วยลดน้ำมันและแคลอรีที่ได้รับเข้าไปได้เป็นอย่างดี เนื่องจากน้ำมันที่ใช้ทอดเป็นตัวการทำให้อ้วนได้ง่าย เพราะนั้นแล้วหากอยากลดความอ้วนควรหลีกเลี้ยงของทอด

3. ไม่กินหวานและเค็มจนเกินไป

พยายามไม่ปรุงอาหารหวานหรือเค็มจนเกินไป การลดปริมาณเค็มและหวานในอาหารช่วยให้คุณควบคุมแคลอรีที่รับประทานได้ดีขึ้น

4. นับแคลอรีที่กินไปแต่ละวัน

ควรนับแคลอรีอาหารที่กินในแต่ละวันและพยายามไม่ให้กินเกินกว่าพลังงานที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน การทำแบบนี้จะช่วยลดปริมาณไขมันสะสมในร่างกายลง และร่างกายจะนำจำนวนไขมันจากส่วนต่างในการกินแต่ละวันมาเผาผลาญออกจากร่างกาย

สามารถคำนวณแคลอรีที่ต้องการในแต่ละวันได้คลิก

5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญแคลอรีต่อวันได้มากขึ้น และช่วยในเรื่องการลดน้ำหนัก ทั้งนี้ควรเลือกวิธีการออกำลังกายให้เหมาะสมกับร่างกายและอย่าหักโหมจนเกินไปเพื่อลดการบาดเจ็บลงได้

อาหารที่ควรกินสำหรับลดความอ้วน

อาหารที่ควรกินตอนลดความอ้วน
  1. ผักและผลไม้ รับประทานผักและผลไม้ให้ได้ทุกมื้อเพราะว่ามีเส้นใยอาหารเพื่อกระตุ้นการขับถ่าย ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและทำให้รู้สึกอิ่มได้นาน ตัวอย่างเช่น สับปะรด, กะหล่ำปลี, แครอท, แอปเปิล
  2. น้ำเปล่า ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน และดื่ม 1 แก้วก่อนมื้ออาหารเพื่อช่วยให้อิ่มเร็วขึ้น
  3. โปรตีน ช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ และเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน ควรเลือกกินอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น อกไก่ เนื้อหมูไม่ติดมัน ปลา เต้าหู้ ไข่ไก่ หรือถั่วต่าง ๆ
  4. คาร์โบไฮเดรต ควรเน้นกินคาร์โบไฮเดรตที่มีเส้นใยอาหารสูง เช่น ข้าวกล้อง, ข้าวโอ๊ต, ขนมปังโฮลวีต
  5. ไขมันดี แนะนำให้กินอะโวคาโด ถั่วต่าง ๆ น้ำมันทานตะวัน หรือน้ำมันมะกอก ซึ่งไขมันดีจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

อาหารควรหลีกเลี่ยงตอนลดความอ้วน
  1. ของหวาน หลีกเลี่ยงขนมหวานและของกินเล่นที่มีน้ำตาลและไขมันสูง
  2. ขนมขบเคี้ยว มักจะมีโซเดียม ไขมัน น้ำตาลสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อน้ำหนักตัวและสุขภาพ
  3. น้ำหวาน น้ำอัดลม หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น กาแฟ ชา น้ำอัดลม น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มชูกำลัง
  4. หลีกเลี่ยงอาหารฟาสต์ฟู้ด เช่น ฮอทด็อก, แฮมเบอร์เกอร์, พิซซ่า ซึ่งมีแคลอรี่สูง
  5. ของทอด และเนื้อติดมัน อาจทำให้อ้วนขึ้นและส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
  6. ขนมเบเกอรี่ต่างๆ เช่น เค้ก, คุ๊กกี้, บราวนี่ ซึ่งมีเส้นใยอาหารน้อยเนื่องจากมีแป้งเป็นส่วนประกอบหลักที่ให้พลังงานสูงและมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ

วิธีออกกำลังกายที่เหมาะสม

การออกกำลังกาย Cardio

การทำคาร์ดิโอ

เพื่อที่จะลดน้ำหนัก ควรเน้นการออกกำลังกายแนวคาร์ดิโอโซน 2 เช่น วิ่งช้า, ว่ายน้ำ, เดินเร็ว, แอโรบิก, ปั่นจักรยาน ควรทำต่อเนื่อง 30-60 นาที/ครั้ง เพื่อเผาผลาญไขมันสะสมในร่างกาย ควรทำทุกวัน หรือประมาณ 3 – 5 ครั้ง/สัปดาห์

การการทำคาร์ดิโอแบบ HIIT (High Intensity Interval Training)

หากต้องการเผาผลาญไขมันเร็วขึ้นและใช้เวลาน้อยลงให้ลองใช้วิธี HIIT ซึ่งจะทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันในระดับสูงสุด ในเวลาเพียง 20 นาที ตัวอย่างการออกกำลังกาย HIIT คือ วิ่งสุดแรง 1 นาที แล้วเดินช้า 1 นาที ทำซ้ำ 10 รอบ

การเพิ่มกล้ามเนื้อ

การเพิ่มกล้ามเนื้อจะช่วยสร้างระบบการเผาผลาญพลังงาน ทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพขึ้น โดยการยกน้ำหนักจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อแข็งแรง และช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและควรมีการฝึกกล้ามเนื้ออย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ตัวอย่างท่าออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อ ได้แก่ สคว็อต, ลุกนั่ง, การทำเวทเทรนนิ่ง